FREE DELIVERY | *T&C APPLY.

มาทำความรู้จักกับ “Sukajan Jacket” เสื้อแจ็คเก็ตสไตล์ญี่ปุ่นกันเถอะ

เสื้อสุกะจัง (スカジャン: Sukajan) ถือเป็นหนึ่งในไอเทมที่ชู Identity ของแบรนด์ Superdry มากที่สุด ด้วยความที่เสื้อสุกะจังนั้นเรียกได้ว่าเป็นเสื้อลูกผสมระหว่างวัฒนธรรมอเมริกันและญี่ปุ่น ซึ่งตรงกับหัวใจหลักในการดีไซน์ของแบรนด์ 

snap611

Photo: Courtesy of Retrospective Modernism

ชื่อเสื้อแจ็คเก็ต Sukajan คนทางฝั่งเอเชียคงรู้จักและคุ้นหูกันบ้าง แต่ชาวยุโรปบางกลุ่มอาจจะไม่ค่อยเข้าใจนัก หรืออาจจะมีบางคนที่เรียกมันว่า Japanese Jacket โดย ชื่อ #สุกะจัง นั้น มีความเชื่อว่าได้มาจากเมืองที่เป็นต้นกำเนิดของแจ็คเก็ตชนิดนี้ นั่นก็คือเมือง “โยโกสุกะ” โดยที่ตัดทอนคำออกมาเหลือแต่คำว่า “สุกะ” ส่วนคำว่า “จัง” เป็นคำสั้นๆ ที่เอาไว้เรียก เสื้อจัมพ์เปอร์

 

ต้นกำเนิดของเสื้อสุกะจัง เกิดจากการได้รับอิทธิพลมาจากอเมริกามาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีวิวัฒนาการมาจาก Souvenir Jacket หรือ “เสื้อกันหนาวของฝาก”  ของทหารอเมริกัน ที่ตั้งใจนำติดไม้ติดมือกลับภูมิลำเนาไปเป็นที่ระลึกหลังสงครามโลกสิ้นสุดลง จึงได้มีการผสมผสานวัฒนธรรมระหว่าง ญี่ปุ่น – อเมริกา ขึ้นมาโดยยึดรูปแบบทรงของแจ็คเก็ตของทหารและเสื้อเบสบอลแบบชาวตะวันตก แล้วจึงเอาผ้าไหม ผ้าซาติน หรือผ้าเรยอน มาปักลวดลายแบบญี่ปุ่นที่อิงจากวัฒนธรรมกิโมโน เป็นการผสมกันระหว่างสองวัฒนธรรมไว้ด้วยกัน หลังจากนั้น ช่างฝีมือชาวญี่ปุ่น ก็ได้พัฒนาต่อยอดเสื้อ Souvenir Jacket มาเรื่อยๆ โดยผสานฝีไม้ลายมือในการปักลวดลายบนเสื้อ ตามความชำนาญของช่างแต่ละคน จนได้รับความนิยมจากลูกค้าจากหลายแวดวง ตั้งแต่ ทหาร นักกีีฬาเบสบอล แยงกี้ แกงสเตอร์ และยากูซ่า ต่อมาจนถึงปัจจุบัน ที่เหล่าดาราในวงการฮอลลีวูด และนักร้องวงดังๆ ต่างก็นิยมนำมาสวมใส่กันเป็นแฟชั่นสุดอมตะไปแล้ว

Screenshot 2022 10 21 at 16.26.33

Photo: GVK/Bauer-Griffin/GC Images; Gotcha Images / Splash News; Stephen Lovekin/Getty

ความโดดเด่นของเสื้อสุกะจังนั้นอยู่ที่:

 

เนื้อผ้าที่นำมาตัดเย็บ

แรกเริ่มเดิมที วัสดุที่นำมาใช้จะเป็นผ้าไนล่อนที่ตัดมาจากร่มชูชีพ โดยต่อมาจนถึงสมัยปัจจุบัน ก็มีการปรับเปลี่ยนวัสดุเป็น ผ้าไหมเรยอน, ผ้าใยโพลีเอสเตอร์, กำมะหยี่ หรือแม้แต่ผ้าไหมแท้ก็มีเช่นกัน แล้วแต่สไตล์ความชอบ ความถนัดของแต่ละแบรนด์ แต่ละสตูดิโอ

 

ลวดลายปักบนตัวเสื้อ

ในยุคแรกๆ ลายปักบนเสื้อมักจะเป็นลวดลายนกอินทรีย์ เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสหรัฐอเมริกา และลายมังกร หรือลายเสือ สาเหตุหลักๆ ที่ลวดลายของเสื้อนั้นค่อนไปทางศิลปะแบบจีน แทนที่จะเป็นศิลปะแบบญี่ปุ่น นั่นก็เพราะว่าในสมัยก่อน เป็นยุคที่การเข้าถึงข่าวสาร ความรู้ และข้อมูลต่างๆ ยังค่อนข้างจำกัด ทำให้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ที่คุ้นเคยกับอารยธรรมในแบบจีนๆ มากกว่า ได้ตีความไปเองว่า ลวดลายเหล่านี้นั้นบ่งบอกถึงความเป็น “เอเชีย” และต่อมาในศตวรรษที่ 21 แบรนด์ดังต่างๆ อย่างเช่น Gucci, Louis Vuitton, Valentino และ Saint Laurent ต่างก็นำเสื้อสุกะจังสุดวินเทจมาประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย โดยเน้นลวดลายที่มีความครีเอทีฟมากขึ้นตามเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ มากกว่าจะเน้นลวดลายที่สื่อความหมายเหมือนในอดีต

 

 

1ruffian5

Photo: Courtesy of Retrospective Modernism

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ทำให้เสื้อสุกะจังได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีกก็คือ ตัวละครอย่าง โบยะ ฮารุมิจิ จากเรื่อง “Crows เรียกเขาว่าอีกา” ที่เชื่อว่า ในบรรดานักอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นจะต้องไม่มีใครที่ไม่รู้จักเรื่องนี้อย่างแน่นอน โดยโบยะมักจะปรากฎตัวในแฟชั่นเสื้อแจ็คเก็ตสุกะจังอยู่เสมอ ทำให้เสื้อสุกะจัง ถูกเรียกอย่างฮิตติดปากคนบางกลุ่มในอีกชื่อว่า “เสื้อโบยะ” เลยทีเดียว นอกจากนี้แก๊งตัวแสบในโรงเรียนจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องอื่นๆ ก็ยังถูกวาดให้ใส่เสื้อสุกะจังอีกด้วย

Screenshot 2022 10 21 at 16.53.46

Photo: Courtesy of Unlockmen

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่เป็นสาวกเสื้อ Sukajan Jacket อยู่แล้ว หรืออาจจะมีบางคนที่อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกชื่นชอบและอยากลองซื้อหามาใส่ขึ้นมา ในประเทศไทยก็มีแหล่งขายอยู่หลายที่ หรือหากไม่รู้ว่าจะไปซื้อที่ไหน ลองแวะเข้าไปชมเสื้อสุกะจังลวดลายต่างๆ ของ Superdry กันได้ครับ

Share

More Like This...

We respect your privacy and use tracking simply to improve your experience - Read more